หมวดหมู่: Movie

  • กัปตันอเมริกา จะกลับมาครองใจแฟน ๆ อีกครั้งหรือไม่? วิเคราะห์ “Cap 2025” กับอนาคตใน MCU

    คริส อีแวนส์" เสี่ยงวางโล่! หลังรับบท กัปตันอเมริกา นาน 8 ปี
    จุดกำเนิดของกัปตันอเมริกา: จากมาร์เวลคอมิกส์สู่จอใหญ่

    กัปตันอเมริกา (Captain America) เป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ที่มีบทบาทสำคัญในจักรวาลมาร์เวล เขาถือเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรม ความเสียสละ และแนวคิดของฮีโร่ที่ยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม ตัวละครเริ่มต้นจากคอมิกส์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการแปลความหลายครั้ง ทั้งในหนังสือ การ์ตูน และภาพยนตร์ จนกลายเป็นหนึ่งในแกนนำของ Avengers

    ใน Marvel Cinematic Universe (MCU) ตัวละครกัปตันอเมริกาได้รับการตีความใหม่หลายเวอร์ชัน — เริ่มจาก Steve Rogers (รับบทโดย Chris Evans) ผู้กลายเป็นต้นแบบของฮีโร่ ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ Sam Wilson (Anthony Mackie) รับบทเป็นกัปตันอเมริกาคนใหม่

    เมื่อภาพยนตร์ Captain America: Brave New World ออกฉายในปี 2025 มันกลายเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับอนาคตของกัปตันอเมริกาใน MCU — กระแสตอบรับ ความสำเร็จทางรายได้ และวิธีที่แฟน ๆ รับรู้ภาพใหม่ของ Cap ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ชี้วัดว่า “กัปตันอเมริกา” จะยังคงโดดเด่นต่อไปหรือไม่

    ประวัติความเปลี่ยนแปลงของกัปตันอเมริกาใน MCU
    Steve Rogers — ตำนานที่ถูกวางรากฐาน

    Steve Rogers คือกัปตันอเมริกาเวอร์ชันดั้งเดิมที่แฟน MCU คุ้นเคย เขาผ่านการทดลองด้วยเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์ กลายเป็นฮีโร่ร่างกายเหนือมนุษย์ แต่ก็ยังยึดมั่นในจิตใจของชายธรรมดาที่มีค่านิยมชัดเจน

    ในตอนท้ายของ Avengers: Endgame (2019) เขาเลือกใช้เวลาส่วนที่เหลือในชีวิตเป็นชายธรรมดา และส่งโล่กัปตันอเมริกาให้ Sam Wilson — เป็นการปิดบทบาทของ Steve อย่างสมเกียรติ

    Sam Wilson / Anthony Mackie — ก้าวต่อจาก Steve

    Sam Wilson เดิมเป็นเพื่อนร่วมทีม Falcon และพันธมิตรของ Steve Rogers

    ในซีรีส์ The Falcon and the Winter Soldier (2021) เขาต้องเผชิญกับภารกิจทางอารมณ์และการเมืองในการยอมรับบทบาทกัปตันอเมริกา

    ภาพยนตร์ Captain America: Brave New World (2025) เป็นภาคที่มี Sam เป็นตัวเอกเต็มตัว และเป็นบทพิสูจน์ว่าเขาจะสามารถรักษามรดกของ Cap ได้หรือไม่

    ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำตั้งแต่ปี 2023 และเผชิญกับการปรับแก้บท (reshoots) เพื่อให้เข้ากับแนวทางของ MCU ในเฟสใหม่
    วิกิพีเดีย
    +2
    วิกิพีเดีย
    +2

    เบื้องหลัง “Captain America: Brave New World” — การผลิต การปรับบท และทิศทาง
    แนวคิดในเบื้องต้น

    “Brave New World” เลือกแนวทางที่ต่างจากภาพยนตร์ Cap ทีผ่านมา เพราะไม่ใช่แค่การต่อสู้กับวายร้ายเพื่อโลก แต่แฝงประเด็นการเมือง ระบบอำนาจ และอัตลักษณ์ของฮีโร่ — Sam ต้องรับมือกับบทบาทใหม่ในโลกที่ซับซ้อนขึ้น

    ผู้กำกับ Julius Onah ได้กล่าวว่าเรื่องนี้เป็น “เรื่องราวของ Sam Wilson” โดยไม่ตั้งคำถามว่าเขาควรเป็น Cap หรือไม่ — แต่ถือว่าเขา คือ Cap แล้ว
    วิกิพีเดีย

    ปรับแก้บทและการถ่ายทำซ้ำ

    มีรายงานว่า Marvel ได้ดำเนินการ reshoots (ถ่ายทำซ้ำ) เพื่อปรับสมดุลเรื่องราวกับจังหวะภาพยนตร์ และเพิ่มเนื้อหาการเชื่อมต่อกับเนื้อหา MCU เฟสต่อไป
    วิกิพีเดีย
    +2
    scottmendelson.substack.com
    +2

    ตัวอย่างเช่น มีการเปลี่ยนตอนจบบางส่วน และการเพิ่มเติมบทสนทนาเกี่ยวกับอุดมการณ์ของ Sam ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเมืองและสังคม

    รายละเอียดตัวละครใหม่และวายร้าย

    Harrison Ford รับบทเป็น Thaddeus Ross ซึ่งกลายเป็น Red Hulk ในเรื่องนี้
    วิกิพีเดีย
    +2
    วิกิพีเดีย
    +2

    Giancarlo Esposito ถูกยืนยันว่าเล่นเป็น Sidewinder หัวหน้ากลุ่ม Serpent Society — เป็นตัวร้ายในเรื่องนี้
    EW.com
    +1

    ความเชื่อมโยงกับองค์ประกอบคอมิกส์ เช่น โลหะ adamantium, Samuel Sterns และผลพวงจากโลก MCU ที่ใหญ่ขึ้น ถูกนำมาใช้เพื่อขยายจักรวาล
    วิกิพีเดีย
    +1

    กระแสตอบรับหลังฉาย: ชื่นชม วิจารณ์ และตัวเลขรายได้
    ตัวเลขรายได้

    “Brave New World” ทำรายได้ทั่วโลกประมาณ 415.1 ล้านดอลลาร์
    วิกิพีเดีย
    +2
    วิกิพีเดีย
    +2

    โดยแบ่งเป็นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาราว 200.5 ล้าน และในต่างประเทศประมาณ 214.6 ล้านดอลลาร์
    วิกิพีเดีย

    สำหรับในประเทศไทย ภาพยนตร์เปิดตัวแรงเกินคาด — กวาดรายได้หลักสิบล้านในช่วงสัปดาห์แรก และมีการกล่าวถึงว่าอาจทำรายได้ 100 ล้านบาท
    www.sanook.com

    ความเห็นจากนักวิจารณ์และแฟน ๆ

    จุดเด่นที่ถูกชื่นชม

    การกลับมาของลักษณะ “Marvel เก่า” ที่เน้นเรื่องราว ตัวละคร และจังหวะความเป็นมนุษย์มากขึ้น
    The Quinnipiac Chronicle

    Anthony Mackie ได้รับคำชมเรื่องการแสดงและการถ่ายทอดอารมณ์ — โดยเฉพาะฉากที่เขาต้องต่อสู้ทางจิตใจในฐานะ Cap ใหม่

    มุมมองต่อ Sam ที่เป็นคนธรรมดาที่ต้องแบกรับหน้าที่และความคาดหวัง — ให้ความรู้สึก “จริง” มากกว่าฮีโร่ไร้ที่ติ
    Pantip
    +1

    ความวิจารณ์และเสียงกังขา

    บางคนมองว่าเรื่องราวซับซ้อนเกินไป มี Easter eggs และการเชื่อมโยง MCU เยอะจนบทหลักถูกบดบัง

    คะแนน Rotten Tomatoes อยู่ในระดับ “กลาง-ต่ำ” — 46% จากนักวิจารณ์
    วิกิพีเดีย

    บางเสียงว่า Marvel ให้ความสำคัญกับจุดขายตัวละครมากกว่าโครงเรื่อง จนบางส่วนของหนังดู “อัดแน่นเกินไป”
    scottmendelson.substack.com
    +2
    วิกิพีเดีย
    +2

    แนวโน้มในสื่อสังคม — ความคาดหวังและวิพากษ์วิจารณ์

    แฟน ๆ หลายคนตั้งคำถามว่า Sam Wilson สามารถยืนได้เท่ากับ Steve Rogers หรือไม่ บางคนยังคงยึดมั่นในรุ่นดั้งเดิม

    มีกระแสข่าวลือว่าใน Avengers: Doomsday จะมี “variant” ตัวละครมารับบทกัปตันอเมริกา — เช่น Bucky Barnes/ Winter Soldier เวอร์ชัน variant
    SuperHeroHype

    Marvel มีแผนจะรีคาสต์ตัวละครสำคัญอย่าง Captain America, Iron Man และ X-Men เพื่อให้จักรวาลสามารถยืดหยุ่นได้ในอนาคต
    The Independent

    วิเคราะห์อนาคตของกัปตันอเมริกาใน MCU

    จากข้อมูลปัจจุบัน เราสามารถตั้งสมมุติฐานหลายแนวทางว่า “Cap จะไปทางไหนต่อ?”

    ความเป็นไปได้ 1: Sam Wilson จะถูกยืนยันบทบาท Cap ระยะยาว

    Anthony Mackie เคยกล่าวว่าเขาหวังจะรับบท Sam Wilson / Cap ต่อไปอีกประมาณ 10 ปี
    วิกิพีเดีย

    หาก Brave New World ถือเป็นจุดตั้งต้นที่แข็งแรง เขาอาจกลายเป็นรุ่นหลักของ Cap ใน MCU ระยะยาว

    ปัญหาคือ ถ้าความนิยมไม่สูงพอ Marvel อาจเลือกปรับบทบาทหรือเลือกเส้นทางอื่น

    ความเป็นไปได้ 2: รีคาสต์ Captain America หลังเฟส Secret Wars

    Marvel ประกาศแผนรีคาสต์ตัวละครสำคัญ รวมถึง Captain America, Iron Man, X-Men เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการเลือกนักแสดงและแนวเรื่อง
    The Independent

    ในกรณีนี้ Sam อาจเป็น Cap ชั่วคราวในเฟสหนึ่ง และมี Cap รุ่นใหม่ในเฟสหลัง

    ความเป็นไปได้ 3: หลัก “Variant / มัลติเวิร์ส” รับไม้

    ด้วยแนวทางมัลติเวิร์สที่ Marvel ใช้ในหลายโปรเจกต์ (เช่น Loki, What If…) มีทฤษฎีว่า Cap เวอร์ชันอื่น (Variant) จะปรากฏใน Avengers: Doomsday หรือ Secret Wars เป็น Cap ตัวใหม่
    SuperHeroHype
    +1

    วิธีนี้จะเปิดทางให้หลาย Cap อยู่ร่วมกันในเรื่องราวได้

    ความสำคัญของ Cap ในการเชื่อม MCU กับอนาคต

    กัปตันอเมริกาเป็นหนึ่งในตัวละครสร้างสมดุลระหว่างการเมือง สังคม และการต่อสู้ การรักษาบทบาท Cap ที่แข็งแรงมีผลต่อโทนเรื่องราวของ MCU — ถ้า Marvel ใช้ Cap เป็นตัวกลางในการสะท้อนประเด็นยุคใหม่ (สิทธิเสรีภาพ, ความยุติธรรม, อุดมการณ์) เขาจะเป็นฮีโร่ที่ยังมีบทบาทสำคัญในเฟสต่อไป

    สรุป: กัปตันอเมริกา จะกลับมาหรือไม่ — คำตอบที่มีหลายมิติ

    ใช่ — แต่ในรูปแบบที่แตกต่าง

    กัปตันอเมริกาจะไม่ “กลับมา” ในฐานะ Steve Rogers อีกแล้ว — แต่ Sam Wilson ได้ขึ้นรับภารกิจนั้นแล้วใน Brave New World แม้ภาพยนตร์อาจไม่ได้สมบูรณ์แบบในสายตาทุกคน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่

    ทิศทางในอนาคตอาจเป็นแบบรีคาสต์, ใช้ variant, หรือให้ Sam อยู่ในบทบาท Cap หลักนานหลายปี ขึ้นอยู่กับว่า Marvel จะให้น้ำหนักกับการตลาด ความต่อเนื่องของจักรวาล และการยอมรับของแฟน ๆ มากน้อยแค่ไหน

    สรุปคือ กัปตันอเมริกา — ไม่ว่าจะอยู่ในตัวตนใด — ยังคงมีโอกาสกลับมาคล้อยตามยุคสมัย และอาจเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดในการเดินเรื่อง MCU ในเฟสหน้า

    FAQ (ถาม – ตอบ)

    กัปตันอเมริกาเวอร์ชัน Steve จะกลับมาหรือไม่
    – ไม่มีแผนให้ Steve Rogers กลับมาในบท Cap หลักอีกแล้ว เพราะเขาได้วางมือและส่งต่อบทบาทให้ Sam Wilson
    วิกิพีเดีย

    Sam Wilson จะเป็น Captain America ต่อไปนานแค่ไหน
    – Mackie เคยกล่าวว่าเขาหวังจะทำบทบาทนี้เป็นเวลา 10 ปี
    วิกิพีเดีย

    ทำไม Brave New World ได้รับวิจารณ์แบบ “กลาง ๆ”
    – เพราะมีการเชื่อมโยง MCU เข้มข้นและเนื้อเรื่องซับซ้อน — บางส่วนถูกมองว่า “อัดแน่นเกินไป” และไม่เข้าถึงคนดูทุกกลุ่ม

    Marvel จะรีคาสต์ Captain America ไหม
    – ใช่ — Marvel ยืนยันว่า มีแผนจะรีคาสต์ตัวละครสำคัญอย่าง Captain America, Iron Man และ X-Men
    The Independent

    ดู+หนัง!] กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่ (2025) หนังใหม่

    มีข่าวลือว่า Cap จะกลับมาใน Avengers: Doomsday ใช่ไหม
    – มีข่าวลือว่า variant เช่น Bucky Barnes อาจได้รับบท Cap ใน Doomsday แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
    SuperHeroHype

    กัปตันอเมริกาใน Brave New World มีจุดเด่นอะไร
    – เน้นปมอัตลักษณ์ของ Sam, การเมือง, การยอมรับบทบาท และการเผชิญกับความคาดหวัง — ไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อโลกเพียงอย่างเดียว

  • The Fantastic Four: First Steps 2025 (สี่พลังคนกายสิทธิ์)

    The Fantastic Four: First Steps 2025 (สี่พลังคนกายสิทธิ์)

    The Fantastic Four: First Steps คือการแนะนำอย่างเป็นทางการของ “ครอบครัวแรกแห่งมาร์เวล” (Marvel’s First Family) เข้าสู่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) โดยเป็นจุดเริ่มต้นของเฟส 6 ภายใต้การกำกับของ แมตต์ แชกแมน (Matt Shakman) ภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจากความพยายามครั้งก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง ด้วยการนำเสนอโทนเรื่องแบบ ย้อนยุค-อนาคต (Retro-Futuristic) ที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค 1960s ผสมผสานกับแก่นเรื่องที่เน้นความผูกพันในครอบครัว

    คะแนนและกระแสวิจารณ์โดยรวม
    ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ “บวกอย่างมาก” (Certified Fresh) ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ Fantastic Four เรื่องแรกที่ได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการชื่นชมในเคมีของนักแสดงและงานสร้างที่โดดเด่น

    Rotten Tomatoes: คะแนนนักวิจารณ์สูงถึง 86% พร้อมฉันทามติว่า “ได้รับประโยชน์จากเคมีของนักแสดงที่แข็งแกร่ง และการแต่งกายด้วยการออกแบบสไตล์ยุค 1960s ที่น่าดึงดูดใจ การพยายามสร้าง Fantastic Four ครั้งนี้ได้ให้ความยุติธรรมแก่ครอบครัวแรกแห่งมาร์เวล”

    Metacritic: คะแนนเฉลี่ย 64-65/100 (จากนักวิจารณ์) ซึ่งถือว่า “ค่อนข้างเป็นบวก”

    IMDB: คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7.0/10 (คาดการณ์จากกระแสวิจารณ์และการรับชมในวงกว้าง)

    กระแสหลัก: ถูกมองว่าเป็น “การเริ่มต้นใหม่ที่สดใหม่” และเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของ MCU ในรอบหลายปี

    เรื่องย่อโดยละเอียด (Plot Summary)
    แก่นเรื่อง: ภาพยนตร์ไม่ได้เป็นเรื่องราวต้นกำเนิด (Origin Story) แต่เริ่มต้นในโลกคู่ขนาน Earth-828 ในปี 1964 ซึ่งเป็นโลกที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยในสไตล์เรโทร-ฟิวเจอริสติก ทีม Fantastic Four ได้รับพลังจากรังสีคอสมิกมาแล้ว 4 ปี พวกเขาคือเซเลบริตี้, นักวิทยาศาสตร์, และผู้นำที่น่ายกย่อง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาคือ ครอบครัว โดยมีหัวใจสำคัญของเรื่องคือ ซู สตอร์ม กำลังตั้งครรภ์

    จุดเริ่มต้นและภัยคุกคามคอสมิก
    การเริ่มต้น: ภาพยนตร์เปิดฉากในโลกที่ รีด ริชาร์ดส์/มิสเตอร์แฟนแทสติก (Reed Richards – Pedro Pascal), ซู สตอร์ม/อินวิซิเบิลวูแมน (Sue Storm – Vanessa Kirby), จอห์นนี่ สตอร์ม/ฮิวแมนทอร์ช (Johnny Storm – Joseph Quinn) และ เบน กริมม์/เดอะธิง (Ben Grimm – Ebon Moss-Bachrach) เป็นไอคอนที่ทุกคนรัก ซู สตอร์ม คือผู้ก่อตั้ง Future Foundation ที่ประสบความสำเร็จในการลดอาวุธและนำความสงบสุขมาสู่โลก

    การมาถึงของซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์: ภัยคุกคามครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ (Silver Surfer – Julia Garner) ผู้ส่งสารคอสมิกเดินทางมาถึงโลกและประกาศว่าโลกถูกทำเครื่องหมายให้ถูก กาแลคตัส (Galactus – Ralph Ineson) “เทพเจ้าผู้กลืนกินดวงดาว” ทำลาย

    ข้อเสนอที่น่าสะพรึงกลัว: ทีม Fantastic Four เดินทางออกไปในอวกาศด้วยยาน Fantasticar เพื่อเผชิญหน้ากับกาแลคตัส พวกเขาค้นพบว่ากาแลคตัสมี “ความหิวโหยที่ไม่รู้จักพอ” และเขารับรู้ได้ว่า เด็กในครรภ์ของซู สตอร์ม (แฟรงคลิน) มีพลังคอสมิกมหาศาลที่สามารถรับเอาความหิวโหยของเขาไปได้ กาแลคตัสเสนอที่จะละเว้นโลกไว้ แลกกับการนำเด็กคนนี้ไป ซึ่งทีมปฏิเสธและหลบหนีกลับมายังโลก โดยซูได้ให้กำเนิด แฟรงคลิน (Franklin) กลางอวกาศ

    วิกฤตศรัทธาและการเสียสละ (Spoilers)
    ปฏิกิริยาของโลก: เมื่อกลับถึงโลก รีด ริชาร์ดส์เปิดเผยข้อเสนอของกาแลคตัสต่อสาธารณชน ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนัก ประชาชนจำนวนมากเรียกร้องให้ครอบครัวนี้ เสียสละบุตรชาย เพื่อแลกกับความอยู่รอดของหลายพันล้านชีวิตบนโลก ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว

    แผนการรับมือ: ทีม Fantastic Four ต้องพยายามหาวิธีหยุดกาแลคตัสโดยไม่เสียลูกชายไป พวกเขาใช้ข้อมูลที่ได้จาก ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ (Shalla-Bal) ซึ่งถูกจอห์นนี่ สตอร์มเข้าใจภาษาของเธอ และร่วมมือกับ ฮาร์วีย์ เอลเดอร์/โมล แมน (Mole Man – Paul Walter Hauser) เพื่ออพยพผู้คนไปยังเมืองใต้ดินของเขา

    จุดไคลแม็กซ์: กาแลคตัสเดินทางมาถึงโลกและตามล่าแฟรงคลิน ทีมวางแผนล่อกาแลคตัสไปที่สะพานวาร์ป แต่กาแลคตัสหลบเลี่ยงกับดักได้

    การเสียสละของซูและแฟรงคลิน: ซู สตอร์มใช้พลังทั้งหมดผลักกาแลคตัสเข้าสู่พอร์ทัลเพื่อส่งเขาออกไปจากโลก รีดช่วยเหลือแฟรงคลินออกมาได้ แต่ซูดูเหมือนจะ เสียชีวิต จากการใช้พลังมากเกินไป

    การกลับใจของซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์: จอห์นนี่พยายามเสียสละตัวเอง แต่ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ (Shalla-Bal) ยับยั้งเขาไว้ หลังจากที่เธอได้ยินเสียงจากดาวเคราะห์ที่เธอเคยช่วยทำลาย เธอตัดสินใจที่จะ เสียสละตัวเอง โดยผลักกาแลคตัสเข้าไปในพอร์ทัลและปิดมันลง

    ปาฏิหาริย์ของแฟรงคลิน: ในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง แฟรงคลิน ลูกชายของรีดและซู ได้เผยพลังคอสมิกที่ซ่อนอยู่ของเขาด้วยการสัมผัสและ ชุบชีวิต ซู สตอร์มขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นการเปิดเผยพลังที่ยิ่งใหญ่ของเด็กคนนี้

    ฉากหลังเครดิต (Mid-Credit Scene)
    ฉาก Mid-Credit มักจะมีความเกี่ยวข้องกับการปูทางสู่ Avengers: Doomsday (2026) โดยมีข่าวลือว่าฉากจะมีการปรากฏตัวของ ด็อกเตอร์ ดูม (Doctor Doom) หรือการเชื่อมโยง Fantastic Four เข้าสู่เหตุการณ์สำคัญของ MCU

    บทวิจารณ์เชิงวิพากษ์ (Critique)
    สิ่งที่ชอบ: ครอบครัว, สไตล์, และเคมีนักแสดง
    แก่นเรื่องครอบครัวที่แท้จริง: ภาพยนตร์ให้ความสำคัญกับ ความผูกพันในครอบครัว เหนือสิ่งอื่นใด ปัญหาที่พวกเขาเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเรื่องการเสียสละลูก หรือความขัดแย้งในความสัมพันธ์ ได้ขับเคลื่อนเนื้อเรื่องอย่างแท้จริง ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงตัวละครได้มากกว่าแค่ “ซูเปอร์ฮีโร่”

    สไตล์ Retro-Futurism ที่เป็นเอกลักษณ์: งานออกแบบฉาก, ยานพาหนะ, และเสื้อผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 1960s และศิลปะของ แจ็ค เคอร์บี้ (Jack Kirby) ให้ภาพที่สดใส มีชีวิตชีวา และโดดเด่นอย่างมาก ทำให้หนังแตกต่างจากโปรเจกต์ MCU อื่นๆ อย่างชัดเจน

    เคมีนักแสดงที่ยอดเยี่ยม: ทีม Fantastic Four ทั้งสี่คน (นำโดย เปโดร ปาสคาล และ วาเนสซา เคอร์บี) มีความเข้ากันอย่างลงตัว โดยเฉพาะการแสดงของ วาเนสซา เคอร์บี ที่รับบทเป็น ซู สตอร์ม ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในแง่มุมของความเป็นแม่ที่ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัว

    สิ่งที่ต้องปรับปรุง: บทวายร้ายที่แบนราบ
    กาแลคตัสที่ขาดความน่าเกรงขาม: แม้ว่าภัยคุกคามจะยิ่งใหญ่ แต่ กาแลคตัส ถูกนำเสนอในรูปแบบที่ค่อนข้างทื่อและไม่มีมิติมากนัก การปรากฏตัวของเขาส่วนใหญ่เป็นเพียงเครื่องมือในการเร่งเร้าพล็อตเรื่องครอบครัว ไม่ได้เป็นตัวร้ายที่ซับซ้อนอย่างที่แฟนคอมมิกคาดหวัง

    Silver Surfer ที่ถูกลดทอน: การตีความ ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ (Shalla-Bal) ในรูปแบบที่ดูอ่อนแอและถูกบีบบังคับให้เปลี่ยนฝั่งอย่างรวดเร็ว ถูกวิจารณ์ว่าทำให้ตัวละครที่ทรงพลังนี้ขาดความสมจริงและลึกซึ้ง

    ความสมบูรณ์ของพล็อต: บางส่วนของบท เช่น การที่รีด ริชาร์ดส์เปิดเผยแผนของกาแลคตัสต่อสาธารณะ หรือการเสียสละที่เปลี่ยนแปลงความรู้สึกของผู้คนอย่างรวดเร็ว ถูกมองว่ามีช่องโหว่ทางตรรกะเล็กน้อย เพื่อให้เรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

    ตัวอย่างหนัง

     

    สรุป: The Fantastic Four: First Steps เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับ Marvel’s First Family ด้วยการนำเสนอสไตล์ที่โดดเด่น, การแสดงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น และการเปลี่ยนความเสี่ยงระดับจักรวาลให้เป็นเรื่องราวของครอบครัวที่เข้าถึงได้ง่าย แม้ว่าการจัดการกับวายร้ายคอสมิกอาจจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและน่าตื่นเต้นสำหรับบทบาทของ Fantastic Four ในอนาคตของ MCU